PEMF Therapy คืออะไร?
- น.พ. บรรลือ
- 6 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
PEMF Therapy (Pulsed Electromagnetic Field Therapy) คืออะไร?

PEMF Therapy หรือการบำบัดด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพัลส์ เป็นการบำบัดทางกายภาพบำบัดที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีการสลับสัญญาณ (พัลส์) เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บหรือโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมถึงอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย

>> หลักการทำงานของ PEMF Therapy
ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วย เซลล์หลายล้านล้านเซลล์ ซึ่งแต่ละเซลล์มีการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาตลอดเวลา การบำบัดด้วย PEMF จะใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่และความเข้มที่เหมาะสม เพื่อเข้าไปมีผลต่อเซลล์ในระดับชีวภาพ โดยมีกลไกการทำงานที่สำคัญดังนี้:
ปรับสมดุลการทำงานของเซลล์: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะช่วยคืนความสมดุลให้กับเซลล์ที่เสียหาย ทำให้เซลล์สามารถทำงานได้ดีขึ้น
กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระตุ้นหลอดเลือดขนาดเล็กและเนื้อเยื่อโดยรอบให้มีการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทำให้เม็ดเลือดแดงนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อได้มากขึ้น
เพิ่มการแลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจน: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าส่งเสริมให้เซลล์มีการแลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนได้ดีขึ้น
ลดการอักเสบและอาการปวด: การไหลเวียนที่ดีขึ้นและการทำงานของเซลล์ที่สมดุลจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดในบริเวณที่ได้รับการรักษา
เร่งการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์: กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อ ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น และช่วยฟื้นฟูเส้นประสาทที่บาดเจ็บ
กระตุ้นการสร้างพลังงานในเซลล์ (ATP): ช่วยเพิ่มพลังงานในเซลล์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานและการซ่อมแซมของเซลล์
ปรับปรุงการกำจัดของเสียและสารพิษ: ช่วยให้เซลล์กำจัดของเสียและสารพิษได้ดีขึ้น
>> ประโยชน์ของ PEMF Therapy
PEMF Therapy มีประโยชน์หลากหลาย สามารถใช้ได้ทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเสื่อมของเซลล์ ประโยชน์ที่พบบ่อยได้แก่:
ลดความเจ็บปวดและการอักเสบ: เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ข้ออักเสบ ปวดหลังเรื้อรัง
เร่งการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ: ช่วยให้กระดูกหักติดเร็วขึ้น, แผลหายเร็วขึ้น, ฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้น
ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือดและเนื้อเยื่อ, ลดอาการชา
เพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า: ช่วยให้เซลล์สร้างพลังงานได้ดีขึ้น
ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ: ลดความเครียดและช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน: เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
บำรุงสุขภาพกระดูก: เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
ฟื้นฟูระบบประสาท: เร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาทที่บาดเจ็บ, ช่วยผู้ที่มีภาวะอ่อนแรงจากโรคหลอดเลือดสมอง
> ข้อควรระวังและข้อห้าม
แม้ว่า PEMF Therapy จะปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อห้ามบางประการดังนี้:
ผู้ป่วยเนื้องอกหรือมะเร็ง: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา
ผู้ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในร่างกาย: ห้ามใช้ เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์
ผู้ที่มีโลหะฝังในร่างกาย: เช่น เหล็กดามกระดูก ควรปรึกษาแพทย์
หญิงตั้งครรภ์: หลีกเลี่ยงการใช้ เนื่องจากอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์
ผู้ป่วยลมชัก: ควรปรึกษาแพทย์
ผู้ป่วยวัณโรค, โรคติดเชื้อไวรัส (ในระยะเฉียบพลัน), เชื้อรา, การติดเชื้อเฉียบพลัน: ควรปรึกษาแพทย์
ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง
อาจเกิดอาการกล้ามเนื้อระบม, ล้า หรือเป็นตะคริวได้ประมาณ 2-3 วันหลังการรักษา
การบำบัดด้วย PEMF ควรทำโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา
Comments