top of page

PEMF Therapy คืออะไร?

PEMF Therapy (Pulsed Electromagnetic Field Therapy) คืออะไร?

PEMF Therapy
PEMF Therapy

PEMF Therapy หรือการบำบัดด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพัลส์ เป็นการบำบัดทางกายภาพบำบัดที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีการสลับสัญญาณ (พัลส์) เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บหรือโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมถึงอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย



แต่ละเซลล์มีการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาตลอดเวลา
แต่ละเซลล์มีการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาตลอดเวลา

>> หลักการทำงานของ PEMF Therapy


ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วย เซลล์หลายล้านล้านเซลล์ ซึ่งแต่ละเซลล์มีการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาตลอดเวลา การบำบัดด้วย PEMF จะใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่และความเข้มที่เหมาะสม เพื่อเข้าไปมีผลต่อเซลล์ในระดับชีวภาพ โดยมีกลไกการทำงานที่สำคัญดังนี้:


  • ปรับสมดุลการทำงานของเซลล์: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะช่วยคืนความสมดุลให้กับเซลล์ที่เสียหาย ทำให้เซลล์สามารถทำงานได้ดีขึ้น

  • กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระตุ้นหลอดเลือดขนาดเล็กและเนื้อเยื่อโดยรอบให้มีการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทำให้เม็ดเลือดแดงนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อได้มากขึ้น

  • เพิ่มการแลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจน: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าส่งเสริมให้เซลล์มีการแลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนได้ดีขึ้น

  • ลดการอักเสบและอาการปวด: การไหลเวียนที่ดีขึ้นและการทำงานของเซลล์ที่สมดุลจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดในบริเวณที่ได้รับการรักษา

  • เร่งการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์: กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อ ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น และช่วยฟื้นฟูเส้นประสาทที่บาดเจ็บ

  • กระตุ้นการสร้างพลังงานในเซลล์ (ATP): ช่วยเพิ่มพลังงานในเซลล์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานและการซ่อมแซมของเซลล์

  • ปรับปรุงการกำจัดของเสียและสารพิษ: ช่วยให้เซลล์กำจัดของเสียและสารพิษได้ดีขึ้น



>> ประโยชน์ของ PEMF Therapy


PEMF Therapy มีประโยชน์หลากหลาย สามารถใช้ได้ทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเสื่อมของเซลล์ ประโยชน์ที่พบบ่อยได้แก่:


  • ลดความเจ็บปวดและการอักเสบ: เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ข้ออักเสบ ปวดหลังเรื้อรัง

  • เร่งการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ: ช่วยให้กระดูกหักติดเร็วขึ้น, แผลหายเร็วขึ้น, ฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้น

  • ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือดและเนื้อเยื่อ, ลดอาการชา

  • เพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า: ช่วยให้เซลล์สร้างพลังงานได้ดีขึ้น

  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ: ลดความเครียดและช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย

  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน: เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

  • บำรุงสุขภาพกระดูก: เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก

  • ฟื้นฟูระบบประสาท: เร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาทที่บาดเจ็บ, ช่วยผู้ที่มีภาวะอ่อนแรงจากโรคหลอดเลือดสมอง



> ข้อควรระวังและข้อห้าม


แม้ว่า PEMF Therapy จะปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อห้ามบางประการดังนี้:


  • ผู้ป่วยเนื้องอกหรือมะเร็ง: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา

  • ผู้ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในร่างกาย: ห้ามใช้ เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์

  • ผู้ที่มีโลหะฝังในร่างกาย: เช่น เหล็กดามกระดูก ควรปรึกษาแพทย์

  • หญิงตั้งครรภ์: หลีกเลี่ยงการใช้ เนื่องจากอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์

  • ผู้ป่วยลมชัก: ควรปรึกษาแพทย์

  • ผู้ป่วยวัณโรค, โรคติดเชื้อไวรัส (ในระยะเฉียบพลัน), เชื้อรา, การติดเชื้อเฉียบพลัน: ควรปรึกษาแพทย์

  • ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง

  • อาจเกิดอาการกล้ามเนื้อระบม, ล้า หรือเป็นตะคริวได้ประมาณ 2-3 วันหลังการรักษา


การบำบัดด้วย PEMF ควรทำโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา

Comments


bottom of page