top of page

VO2 max คืออะไร - จะแฮกอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในมุมมอง Biohacker

  • น.พ.บรรลือ
  • 6 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที
VO2 max คืออะไร - จะแฮกอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในมุมมอง Biohacker
VO2 max คืออะไร - จะแฮกอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในมุมมอง Biohacker

VO2 max คืออะไร?


VO2 max หรือ Maximum Oxygen Consumption คือ อัตราสูงสุดที่ร่างกายของเราสามารถดูดซึม ใช้งาน และขนส่งออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อในระหว่างการออกกำลังกายที่หนักหน่วง 


พูดง่ายๆ คือเป็นตัวชี้วัดความสามารถของร่างกายในการใช้ออกซิเจนเพื่อผลิตพลังงานขณะที่เราออกกำลังกายอย่างเต็มที่นั่นเองครับ


  • V: คือ Volume (ปริมาตร)

  • O2: คือ Oxygen (ออกซิเจน)

  • max: คือ Maximum (สูงสุด)


หน่วยของ VO2 max มักจะแสดงในรูปของมิลลิลิตรของออกซิเจนที่ใช้ต่อนาทีต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม (ml/kg/min) ยิ่งค่า VO2 max สูงเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงประสิทธิภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบหายใจ และระบบกล้ามเนื้อในการใช้ออกซิเจนได้ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า เรามีความทนทานในการออกกำลังกายที่สูงขึ้นนั่นเอง


ปัจจัยที่มีผลต่อ VO2 max:


  • พันธุกรรม: มีส่วนสำคัญอย่างมากในการกำหนดศักยภาพสูงสุดของ VO2 max

  • อายุ: VO2 max มักจะสูงสุดในช่วงวัยหนุ่มสาวและลดลงตามอายุ

  • เพศ: โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายมักจะมี VO2 max สูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย

  • ระดับการฝึกฝน: การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถเพิ่ม VO2 max ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  • ความสูงจากระดับน้ำทะเล: การฝึกในที่สูงสามารถปรับปรุง VO2 max ได้ เนื่องจากร่างกายปรับตัวเพื่อใช้ออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสภาวะที่มีออกซิเจนเบาบาง



จะใช้ประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายในมุมมองของไบโอแฮ็กเกอร์ได้อย่างไร?


ในมุมมองของนักแฮกร่างกาย (Biohacker) การเพิ่มประสิทธิภาพของ VO2 max ไม่ได้เป็นเพียงแค่การฝึกฝนเพื่อการแข่งขันเท่านั้น แต่เป็นการปรับปรุงระบบการทำงานของร่างกายในระดับเซลล์ เพื่อให้มีพลังงาน ประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นที่สูงขึ้นในชีวิตประจำวัน เราสามารถใช้ประโยชน์จาก VO2 max ได้สูงสุดด้วยแนวทางดังต่อไปนี้:


  1. การประเมินและติดตามอย่างสม่ำเสมอ:

    • ทดสอบ VO2 max: สามารถทำได้โดยการทดสอบทางคลินิก (เช่น การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าหรือปั่นจักรยาน) เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำที่สุด หรือใช้ smart watch/ fitness tracker บางรุ่นที่สามารถประมาณค่า VO2 max ได้

    • ติดตามความคืบหน้า: บันทึกและติดตามค่า VO2 max ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูแนวโน้มและปรับแผนการฝึกฝนให้เหมาะสม

  2. การฝึกฝนที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบพลังงาน:

    • High-Intensity Interval Training (HIIT): การฝึกแบบ ZHIIT เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่ม VO2 max โดยการสลับช่วงการออกกำลังกายที่หนักหน่วงมาก (เช่น วิ่งเร็วสุด) กับช่วงพักสั้นๆ หรือการออกกำลังกายเบาๆ วิธีนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายปรับตัวเพื่อใช้ออกซิเจนได้ดีขึ้น

    • Zone 5 Training: การฝึกที่ความเข้มข้นสูงสุด (หัวใจเต้น 90-100% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) เป็นระยะเวลาสั้นๆ (เช่น 1-5 นาที) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหายใจและหัวใจในการส่งออกซิเจน

    • Long-Duration, Moderate-Intensity Training: แม้ว่า HIIT จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นปานกลางต่อเนื่องเป็นเวลานาน (เช่น วิ่งหรือปั่นจักรยานโซน 2-3) ก็ยังคงมีความสำคัญในการสร้างฐานความทนทานและเพิ่มประสิทธิภาพของไมโตคอนเดรีย

    • Altitude Training (การฝึกในที่สูง): หากเป็นไปได้ การฝึกในสภาวะที่มีออกซิเจนน้อย (เช่น บนภูเขา หรือใช้ห้องจำลองความสูง) สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น ทำให้การขนส่งออกซิเจนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. โภชนาการและการเสริมอาหารที่เหมาะสม:

    • สารอาหารครบถ้วน: เน้นการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน โปรตีนเพื่อซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ และไขมันดีเพื่อสุขภาพโดยรวม

    • อาหารเสริมที่อาจช่วยได้:

      • Beetroot Juice/Nitrate: อุดมไปด้วยไนเตรต ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน

      • Creatine: ช่วยเพิ่มแหล่งพลังงาน ATP ในกล้ามเนื้อ ซึ่งจำเป็นสำหรับการออกกำลังกายที่ใช้พลังงานสูง

      • Beta-Alanine: ช่วยลดการสะสมของกรดแลคติก ทำให้สามารถออกกำลังกายหนักๆ ได้นานขึ้น

      • CoQ10: มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานในไมโตคอนเดรีย ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ออกซิเจน

  4. การปรับปรุงคุณภาพชีวิตและปัจจัยอื่นๆ:

    • การนอนหลับที่มีคุณภาพ: การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวและประสิทธิภาพการออกกำลังกายอย่างมาก ควรตั้งเป้าหมายการนอน 7-9 ชั่วโมงต่อคืน

    • การจัดการความเครียด: ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อฮอร์โมนและระบบต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

    • การฟื้นตัว (Recovery): ให้ความสำคัญกับการยืดเหยียด โฟมโรลลิ่ง การนวด และการพักผ่อน เพื่อให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวและพร้อมสำหรับการฝึกครั้งต่อไป

    • Hydration: การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย



มุมมองของไบโอแฮ็กเกอร์:


Biohacker ไม่ได้มอง VO2 max เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นภาพสะท้อนของสุขภาพเมตาบอลิซึมและความสามารถในการสร้างพลังงานของเซลล์ การเพิ่ม VO2 max ในมุมมองนี้คือการ:


  • เพิ่มประสิทธิภาพของไมโตคอนเดรีย: ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าของเซลล์ ยิ่งไมโตคอนเดรียมีประสิทธิภาพและมีจำนวนมากเท่าไหร่ การผลิตพลังงานด้วยออกซิเจนก็จะดีขึ้น

  • ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต: ทำให้การขนส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เพิ่มความทนทานต่อความเครียดทางกายภาพ: ทำให้ร่างกายสามารถรับมือกับการออกกำลังกายที่หนักหน่วงและการฟื้นตัวได้ดีขึ้น

  • เป็นตัวชี้วัดสุขภาพระยะยาว: VO2 max ที่สูงมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการมีอายุยืนยาว


การแฮ็ก VO2 max จึงเป็นการผสมผสานระหว่างการฝึกฝนทางวิทยาศาสตร์ โภชนาการที่แม่นยำ และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อให้ร่างกายทำงานในระดับที่เหมาะสมที่สุด ไม่เพียงแค่เพื่อการออกกำลังกาย แต่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในภาพรวมครับ




Comments


bottom of page